BEMปักธง4.7แสนคน ขยายพื้นที่เชิงพาณิชย์
นายธนาวัฒน์ วรรณดิษฐ์ ผู้จัดการส่วน ส่วนนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เปิดเผยว่า บริษัทคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารเฉลี่ยทั้งปี 2567 ที่ราว 4.5-4.7 แสนเที่ยวคนต่อวัน หรือเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 7-8% เมื่อเทียบกับปริมาณผู้โดยสารเฉลี่ยทั้งปี 2566 (YoY) ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ราว 3.8-3.9 แสนเที่ยวคนต่อวัน ขณะที่ปริมาณการจราจรบนทางด่วนคาดว่าจะสามารถเร่งตัวกลับไปแตะ 1.2 ล้านคันต่อวัน ได้อย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้จำนวนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าและทางด่วนยังเพิ่มขึ้นตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีมากขึ้นและการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ตามแนวรถไฟฟ้า ในอนาคตจะมีโครงการมิกซ์ ยูสขนาดใหญ่เพิ่มมากขึ้น อาทิ “OneBangkok” ซึ่งจะเปิดเฟสแรกในช่วงต้นปี 2567 และโครงการ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” ที่จะให้บริการในปี 2568 จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้โดยสารให้กับสถานีลุมพินีและสถานีสีลมอย่างมีนัยสำคัญ
ดังนั้น บริษัทจึงมีแผนจะเพิ่มพื้นที่พัฒนาเชิงพาณิชย์ “เมโทร มอลล์” ณ สถานีรถไฟฟ้าที่มีศักยภาพ เพิ่มรายได้ทั้งค่าเช่าพื้นที่ ค่าโฆษณา ฯลฯ ให้กับบริษัทอีกทางหนึ่ง โดยในปี 2567 จะเริ่มเปิดให้บริการพื้นที่ในสถานีศูนย์การประชุมสิริกิติ์
Double Deck เซ็นปีหน้า
สำหรับความคืบหน้าโครงการทางด่วนขั้นที่ 2 (โครงการ Double Deck) ปัจจุบันการทางพิเศษ แห่งประเทศไทย (กทพ.) ศึกษา-วิเคราะห์ผลกระทบ สิ่งแวดล้อม Environmental Impact Assessment (EIA) เสร็จแล้วคาดว่าจะนำเสนอกระทรวงคมนาคมตามขั้นตอน โดยคาดว่าจะสามารถลงนามสัญญากับบริษัทได้ภายในปี 2567 เช่นเดียวกับความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงส่วนต่อขยาย ซึ่งคาดว่า การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. จะเริ่มกระบวนการคัดเลือกผู้รับสัมปทานเดินรถ และประกาศผลผู้ที่ได้รับการคัดเลือกภายในปี 2567 เพื่อให้สามารถเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 2571-2572
ขณะเดียวกัน บริษัทอยู่ระหว่างรอผลการประมูล โครงการ Rest Area ของโครงการมอเตอร์เวย์ M7 (ชลบุรี-พัทยา) (อยู่ระหว่างการประมูล), รวมถึงยัง ได้ศึกษา-เตรียมความพร้อมเข้าร่วมประมูลโครงการภาครัฐที่คาดว่าจะทยอยเปิดประมูลต่อเนื่องทั้งปี 2567 อาทิ 1.โครงการ Rest Area ของโครงการมอเตอร์เวย์ M82 (บางขุนเทียน-เอกชัย), 2.งานโยธา โครงการมอเตอร์เวย์ M9 (ฝังตะวันตก บางขุนเทียนบางปะอิน, และโครงการมอเตอร์เวย์ M5 (ส่วนต่อขยาย ทางยกระดับดอนเมืองโทล์ลเวย์ ช่วงรังสิต-บางปะอิน) เป็นต้น
โค้งสุดท้ายโตต่อ
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 4/2566 มีแนวโน้มอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 3/2566 (QoQ) ท่ผ่านมา กดดันจากการเข้าส่ช่วงเทศกาล มีวันหยุดยาวหลายช่วง แต่ยังคงมีแนวโน้ม เติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) หนุนจากการเชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าในเมืองชานเมือง สามารถส่งต่อผู้โดยสารเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“การเชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าจะช่วยให้ โดยสารเดินทางได้สะดวกคาดว่าช่วยเพิ่มจำนวนผู้โดยสารเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินได้ประมาณ 35-40% ขณะที่นโยบายของรัฐบาลที่ประกาศลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วงเหลือ 20 บาทตลอดสาย จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วงและส่งต่อผู้โดยสารมายังรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่จุดเชื่อมต่อกันที่สถานีเตาปูน”
แนะ “ซื้อ” เป้า 10.80 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ คาดการณ์กำไรสุทธิงวดไตรมาส 4/2566 ของ BEM ที่ 693 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15%YoY แต่ลดลง 29% QoQ โดยยังคง คาดกำไรสุทธิทั้งปี 2566 ที่ 3,323 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% YoY และเติบโตต่อเนื่อง 25% YoY เร่งตัวแตะ 4,063 ล้านบาทในปี 2567 ตามการเติบโตของปริมาณ ผู้โดยสาร และการเติบโตของปริมาณรถบนทางด่วน จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ที่ 10.80* บาท (รวมมูลค่าเพิ่มจาก รฟฟ. สายสีส้ม 1.35 บาท แล้ว) และยังมีปัจจัยหนุนจากโครงการลงทุน ใหม่ๆ เช่น Double Deck, และโครงการ O&M รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้
ที่มา: หนังสือพิมพ์ทันหุ้น