อสังหาฯ พลิกขั้ว หันเจาะเมียนมา-อินเดีย
’ชดเชยกำลังซื้อจีนซึม-แก้วิกฤต’รีเจ็กต์เรต’
’พฤกษา’ นำร่องโรดโชว์คอนโดย่านจรัญฯ
’อสังหาฯ’บุกเจาะลูกค้าต่างชาติ ‘พฤกษา’ผนึกนายหน้าขนคอนโดใหม่ราคาล้านต้นๆ โรดโชว์พม่า รอจีนคัมแบ๊ก ‘แคปปิตอล วัน’เผยเมียนมา อินเดีย ตลาดดาวรุ่ง
นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดคอนโดมิเนียมในครึ่งปีหลังของปี 2566 ต้องเวทแอนด์ซี (รอดูสถานการณ์ก่อน) ถึงภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์การเมือง ถ้าตั้งรัฐบาลได้เร็วคงจะช่วยกระตุ้นตลาดปัจจุบันที่ซึมให้คึกคักขึ้น จากในช่วงครึ่งปีแรก 2566 ที่กำลังซื้อ ในประเทศไม่ค่อยดี โดยเฉพาะระดับล่างต่ำกว่า 3 ล้านบาท มียอดรีเจ็กต์เรตสูงถึง 30-40% เป็นมาจากภาวะหนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง ทั้งนี้ ปี 2566 นี้ พฤกษาได้รุกตลาด ต่างชาติมากขึ้น ทั้งซื้อเพื่อการลงทุนและอยู่อาศัยเอง นอกจากประเทศจีน ไต้หวัน ยังศึกษาตลาดประเทศอื่นๆ เพิ่มเติม
นายปิยะกล่าวว่า ได้ร่วมกับเอเยนต์นำคอนโดมิเนียมพลัมคอนโด นิวเวสต์ บางใหญ่ สูง 33 ชั้น 1,124 ยูนิต เริ่มต้น 1.59 ล้านบาท ไปโรดโชว์ที่เมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เจาะกลุ่มคนชั้นกลางเมียนมาที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในประเทศไทย ยังมีแผนนำโครงการใหม่ที่เปิดขายปีนี้ ไปโรดโชว์ด้วย เช่น เดอะ ไพรเวซี่ พาร์ค เตาปูน เริ่มต้น 2.19 ล้านบาท ซึ่งเปิดขายแล้วบางส่วน และแชปเตอร์วัน จรัญ-บางพลัด ใกล้รถไฟฟ้า MRT สถานีบางพลัด สูง 26 ชั้น 1,533 ยูนิต มูลค่าโครงการ 3,300 ล้านบาท จะเปิดขายเดือนตุลาคมปีนี้ ราคาเฉลี่ยตารางเมตรละ 70,000-80,000 บาท
นายวิทย์ กุลธนวิภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทแคปปิตอล วัน เรียลเอสเตท จำกัด และ เคลเลอร์ วิลเลี่ยม ไทยแลนด์ บริษัทตัวแทนขายและที่ปรึกษาการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดต่างชาติที่เข้ามาซื้ออสังหาฯในไทย กลุ่มลูกค้าเอเชียยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง เช่น จีน ญี่ปุ่น เมียนมา มาเลเซีย กัมพูชา เพราะคุ้นเคยกับประเทศไทย
”คาดว่าไม่เกิน 2 ปีจากนี้ ผู้ซื้อจากเมียนมาจะกลายเป็นตลาดที่ใหญ่ขึ้น ส่วนอินเดียจะเป็นอีกกลุ่มที่เติบโต แต่ต้องใช้เวลาในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เพราะยังไม่คุ้นเคยการซื้ออสังหาฯในไทยเพื่อการลงทุนมากนัก โดยทำเล ที่ต่างชาตินิยมอยู่ศูนย์กลางธุรกิจ เช่น สุขุมวิท สีลม สาทร แต่เพราะโครงการใหม่ราคาค่อนข้างแพง ทำให้คอนโดมิเนียมมือสองมีความต้องการสูงขึ้นมาก” นายวิทย์กล่าว
Reference: หนังสือพิมพ์มติชน