NOBLE ครึ่งแรกโตตามเป้าลูกค้าไทย - ต่างชาติโอนพุ่ง
NOBLE แย้มผลงานครึ่งแรกปี 2566 ตามเป้า ยอดโอนไม่สะดุดทั้งลูกค้าไทย-ต่างชาติ มั่นใจครึ่งหลังของปีดีกว่าครึ่งแรก หนุนจากลูกค้าต่างชาติสามารถเดินทางเข้ามาได้สะดวกมากขึ้น ระบุมีแบ็กล็อกแน่น 2 หมื่นล้านบาท ส่วนการลงทุนในสหราชอาณาจักรยังคงมีรายได้ค่าเช่าสม่ำเสมอ
นายธงชัย บุศราพันธ์ รองประธาน กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE เปิดเผยว่า บริษัทคาดการณ์ผลงานครึ่งแรกของปี 2566 (1H/66) มีแนวโน้มเติบโตตามเป้าที่ตั้งไว้ แม้งวดไตรมาส 1/2566 ที่ผ่านมายอดขายใหม่ (Pre-Sale) จะต่ำกว่าที่ประมาณการไว้เล็กน้อย แต่เริ่มเห็นสัญญาณเร่งตัวขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคม 2566 ต่อเนื่องถึงปัจจุบัน
และคาดว่าจะสามารถเร่งตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่องตลอดช่วงครึ่งหลังของปี 2566 (2H/66) หนุนจากเศรษฐกิจในประเทศที่สามารถฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับฐานลูกค้าต่างชาติโดยเฉพาะคนจีน, ฮ่องกง, ไต้หวัน, สิงคโปร์ ฯลฯ ที่เริ่มทยอยกลับมาซื้อที่อยู่ในไทยเป็นบ้านหลังที่ 2 มากขึ้น ส่งผลดีต่อ Sentiment ทั้งลูกค้าในกลุ่มที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง (Real Demand) และลูกค้าที่ซื้อเพื่อลงทุน
ตุนแบ็กล็อก 2 หมื่นล.
สำหรับปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือรวมมูลค่า ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท และมีโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ (Inventory) ที่ คาดว่าจะสามารถส่งมอบภายในปี 2566 ได้รวมมูลค้าราว 1.1 หมื่นล้านบาท พร้อมกันนี้ยังมีแผนเปิดโครงการใหม่รวม 11 โครงการ แบ่งเป็นโครงการแนวราบรวมถึงโครงการคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise ทั้งสิ้น 9 โครงการ รวมมูลค่า 13,400 ล้านบาท และโครงการประเภทแนวสูง 1 โครงการ มูลค่า 9,900 ล้านบาท มุ่งเน้นทำเลศักยภาพทั้งใจกลางกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ทั้งโซนตะวันตก และตะวันออก
ทั้งนี้บริษัทยังสามารถทยอยโอนกรรมสิทธิ์โครงการได้อย่างต่อเนื่องทั้งกลุ่มลูกค้าไทย และต่างชาติ จึงค่อนข้างมั่นใจว่าผลการดำเนินงานทั้งปี 2566 จะเป็นไปตามเป้า โดยตั้งเป้าหมายยอดขายใหม่ทั้งปีที่ 23,000 ล้านบาท และรายได้รวมทั้งปีที่ 15,000 ล้านบาท
บุ๊กยอดโอนต่อเนื่อง
”บริษัทสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ทั้งกลุ่มลูกค้าในประเทศสำหรับโครงการมูลค่าระหว่าง 1-3 ล้านบาท ได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการโอนกรรมสิทธิ์ให้ลูกค้าต่างชาติได้มากขึ้น จึงไม่กังวลว่าผลการดำเนินงานจะไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ทั้งนี้หากการเดินทางระหว่างไทย-จีนเริ่มสะดวกขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี อาจเป็นปัจจัยหนุนให้ผลการดำเนินงานเร่งตัวสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้โดยเฉพาะยอดขายโครงการใหม่”
สำหรับบริษัทย่อย โนเบิล เวนเจอร์ อินเวสเมนท์ ซึ่งทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในสหราชอาณาจักร (UK) ปัจจุบันมีโครงการในกรรมสิทธิ์ทั้งสิ้นราว 20 ยูนิตสร้างรายได้ประจำได้ในระดับหนึ่ง ทั้งนี้อยู่ระหว่างติดตามสถานการณ์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ, สถานการณ์ทางรัฐภูมิศาสตร์อย่างใกล้ชิด เพื่อประกอบการพิจารณากลับเข้าไปลงทุนราวช่วงไตรมาส 4/2566 เป็นต้นไป
”โครงการที่ยังถือกรรมสิทธิ์อยู่มีราย 20 กว่ายูนิตซึ่งมีผู้เช่าทุกยูนิตก็มีรายได้ประจำสะสมมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับระดับราคาอสังหาริมทรัพย์ในสหราชอาณาจักร เริ่มอยู่ในระดับที่น่าสนใจ เบื้องต้นยังคงติดตามสถานการณ์ต่อเนื่องอีกราว 2-3 ไตรมาสเพื่อประกอบการพิจารณาว่าควรจะเข้าซื้อสะสมอสังหาริมทรัพย์ในสหราชอาณาจักรอีกครั้งได้หรือไม่ ทั้งนี้ในส่วนของลูกค้าเป้าหมายโดยเฉพาะนักลงทุนจีน, ฮ่องกง ฯลฯ มีความพร้อมที่จะเข้าลงทุนอย่าง ต่อเนื่อง”
Reference: หนังสือพิมพ์ทันหุ้น
