เอกชนประเมิน Real Demand หนุนอสังหาฯแนวราบโตรับโควิด-19
นายสุธรรม สุวรรณนภาศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท นัมเบอร์วันเฮ้าส์ซิ่ง ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยว่า อสังหาฯแนวราบในปีนี้ ยังมีโอกาสเติบโต แม้ตัวเลขจะไม่หวือหวานักแต่เชื่อมั่นว่าจะไม่ติดลบอย่างแน่นอน ขณะที่อสังหาฯแนวสูง นักวิเคราะห์หลายรายก็มองไปในทิศทางเดียวกันว่า มีโอกาสติดลบสูงถึง 40% เนื่องจากมาตรการรักษาระยะห่างทำให้การใช้พื้นที่ส่วนกลางของคอนโดยากขึ้น ผู้อยู่อาศัยต้องถูกจำกัดอยู่ในห้องส่วนตัว ซึ่งน่าจะ ส่งผลต่อมุมมองการเลือกที่อยู่อาศัยแตกต่างไปจากเดิม ซึ่งการปรับตัวของผู้บริโภคนี้เอง น่าจะ ส่งผลกระทบต่อผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีสายป่านสั้น กระแสเงินสดไม่สะพัด อาจเป็นโอกาสที่ธุรกิจอาจจะปิดตัวลงจากสถานการณ์นี้ได้
ส่วนมาตรการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่ภาครัฐอนุมัติผ่อนปรน 90% นั้น นายสุธรรม มองว่ามีผลทางจิตวิทยา ไม่มีผลในการช่วยตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยของประชาชนมากนัก สิ่งที่จะกระตุ้นการตัดสินใจได้มาก น่าจะเป็นการยกเลิกมาตรการ LTV โดยเฉพาะกับโครงการแนวราบ เนื่องจากอสังหาฯ แนวราบส่วนใหญ่ ผู้อยู่อาศัยเป็นเรียลดีมานต์ ไม่ได้ซื้อเพื่อเก็งกำไร หรือปล่อยเช่าเหมือนโครงการแนวสูงในเมือง
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ที่ทำให้เกิดมาตรการรักษาระยะห่างระหว่างกัน น่าจะส่งผลให้อสังหาริมทรัพย์แนวราบได้รับอานิสงค์ดังกล่าว เชื่อว่าผู้บริโภคที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยหลังใหม่ น่าจะมองบ้านแนวราบเป็นทางเลือกมากขึ้น เนื่องจากราคาบ้านแนวราบเขตชานเมืองในปัจจุบันนั้นมีราคาที่ไม่สูงนัก เมื่อเทียบกับคอนโดใจกลางกรุง แต่ยังคงเดินทางเข้าออกเมืองได้อย่างสะดวก ทำให้บ้านแนวราบกำลังเป็นที่จับตามองในขณะนี้
ทั้งนี้นัมเบอร์วันเฮ้าส์ซิ่ง ดิเวลลอปเม้นท์ ซึ่ง เป็นผู้พัฒนาบลูลากูน 2 โครงการบ้านเดี่ยวระดับ luxury พร้อมกระตุ้นกำลังซื้อเรียลดีมานต์ด้วยส่วนลดพิเศษสูงสุด 2.4 ล้านบาท กับบ้านหรูในสังคมเหนือระดับราคาเริ่มต้น 10.99-27.4 ล้านบาท บนที่ดิน 86.40-142.80 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 219-560 ตร.ม. ตอบโจทย์บ้านอัจฉริยะทุกหลัง Home Automation ระบบอัตโนมัติ สั่งการเปิดปิดระบบไฟ เครื่องปรับอากาศ ผ่านแอปพลิเคชั่น, รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยถึง 3 ชั้น
Reference: บางกอกทูเดย์