เปิด7ทำเลฮิตเตรียมปูทางรับลูกค้าจีน
นายไซม่อน ลี ประธานกรรมการ บริษัท แองเจิล เรียลเอสเตท คอนซัลแทนซี่ จำกัด ที่ปรึกษาด้านการตลาดและขายอสังหาริมทรัพย์ของไทย เปิดเผยว่า การที่จีนเปิดประเทศไม่ได้ทำให้ตลาดคอนโดมิเนียมไทยกลับมาคึกคัก หรือหวือหวาเหมือนช่วง 60-62 แต่จะค่อย ๆ โตขึ้นจากความต้องการของคนจีนที่อยากมีบ้านหลังที่สองและคาดว่าจะต้องใช้เวลา 7-8 เดือน ที่การเปิดประเทศของจีนส่งผลดีต่ออสังหาฯไทย โดยเฉพาะในกลุ่มชาวจีนฐานะปานกลางที่เลือกมาซื้ออสังหาฯในไทยระดับราคา 5-7.5 ล้านบาท ส่วนกลุ่มฐานะดีจะซื้อที่สิงคโปร์และญี่ปุ่น
ขณะที่ทำเลศักยภาพที่คนจีนยังมีความต้องการซื้อคอนโดมิเนียมหลังเปิดประเทศ หลัก ๆยังเป็นทำเลเดิม ได้แก่ โซนสุขุมวิท, สาทร, สีลม, รัชดาภิเษก, พระราม 9, รามคำแหง และเส้นศรีนครินทร์ จะขายดี และยังมีบางทำเลที่คนจีนและคนต่างชาติอาจจะไม่คุ้นเคย เช่น แนวรถไฟฟ้าสายสีแดง, สีชมพู หรือทำเลนนทบุรี และพฤติกรรมการซื้อของคนจีนเปลี่ยนไปจะซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง ซึ่งจะใส่ใจในเรื่องขนาดของห้องพัก โลเกชั่น เช่น ถ้าโครงการอยู่ไกลออกไปจะได้ห้องที่ใหญ่ขึ้น, ฮวงจุ้ย หรือทิศทางที่เป็นมงคลและไม่ส่งผลต่อชีวิต, สิ่งอำนวยความสะดวกที่สมบูรณ์, พัฒนาคุณภาพโครงการให้ดีต่อเนื่อง, ลูกค้าเริ่มมองหาห้องชุดแบบ 2 ห้องนอน ต้องมี 2 ห้องน้ำ, รูปแบบของห้องชุดต้องคำนึงถึงการใช้ประโยชน์สูงสุด
สำหรับแผนงานปีนี้ บริษัทจึงกลับมารุกธุรกิจเอเจนท์ตัวแทนขายคอนโดมิเนียมให้ต่างชาติอย่างเต็มรูปแบบ หลังจากในช่วงที่เกิดวิกฤติ โควิด-19 ได้ปรับแนวทางดำเนินธุรกิจเพื่อให้สอดคล้องกับภาวะตลาดที่ได้หดตัวลงอย่างรุนแรง เนื่องจากในช่วงปี พ.ศ. 63-65 ส่งผลให้ยอดขายและรายได้ปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก
นายไซม่อน กล่าวอีกว่า โดยในปัจจุบันนี้มีพอร์ตที่บริหารอยู่ประมาณ 5-6 พอร์ต พอร์ตละกว่า 80-100 ยูนิต และจะเพิ่มพอร์ตรวมเป็น 20 พอร์ต โดยวางเป้ายอดขายปีนี้ประมาณ 7,000 ล้านบาท จนไปสูงสุดที่ 25,000 ล้านบาท และสามารถทำยอดโอนกรรมสิทธิ์ได้ประมาณ 5,000 ล้านบาท เติบโตมากกว่า 10% คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายตามแผนธุรกิจที่วางไว้ และสถานการณ์ต่าง ๆ ได้เอื้ออำนวยในระดับหนึ่งแล้ว
Reference: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์