คนไทยเตรียมรับมือดบ.ขาขึ้นเริ่มส.ค.นี้
เงินเฟ้อเร่งตัวทำดอกขยับเร็วกว่าคาด
กนง.เสียงแตกคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ฝ่ายวิจัยหลายแบงก์มองตรงกัน ประชุมรอบหน้า 10 ส.ค. ขึ้นแน่ 0.25% สิ้นปีอาจเห็น 1.25% ปรับเร็วกว่าคาดเดิมปี‘66 หลังส่งสัญญาณชัดนโยบายการเงินผ่อนคลายจำเป็นน้อยลง เงินเฟ้อพุ่งเร่งตัว หุ้นแบงก์ดี๊ด๊า เขียวยกแผง รับข่าวดอกเบี้ยขยับ
กรณีที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา มีมติ ไม่เอกฉันท์ 4 ต่อ 3 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% ต่อปีนั้น ฝ่ายวิเคราะห์ด้านการเงินต่างมีความเห็นถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากนี้อาจจะเป็นขาขึ้น
นายธรรมรัตน์ กิตติสิริพัฒน์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ ทิสโก้ หรือ TISCO ESU กล่าวว่า คณะกรรมการ กนง. 3 ใน 7 คนมีมติให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป็นการส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้านี้ รวมถึงรายงานการประชุมมีการระบุด้วยว่า การดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากในปัจจุบันจะมีความจำเป็นลดลงในระยะข้างหน้า รวมถึงได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อขึ้นอย่างมาก คาดว่า ปี 2566 จะขยับขึ้นใกล้กรอบบนของเงินเฟ้อ เป้าหมายที่ 3% ศูนย์วิเคราะห์ทิสโก้จึงเชื่อว่า ในการประชุมครั้งถัดไปเดือนสิงหาคมนี้ กนง. จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จากเดิมคาดการณ์ว่าจะขึ้นดอกเบี้ยปีหน้า โดยคาดว่าจะปรับขึ้นครั้งละ 0.25% ในทุกการประชุมที่เหลือของปีนี้ คือเดือนสิงหาคม, กันยายน และพฤศจิกายน ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายกลับสู่ระดับก่อนการระบาดของโควิด-19 ที่ 1.25% ณ สิ้นปีนี้
”กนง.อาจต้องการลดความเสี่ยง เลี่ยงการใช้ยาแรง หากเลือกจะปรับขึ้นดอกเบี้ยปีหน้า เหมือนกับที่ได้เห็นหลายประเทศปรับขึ้นดอกเบี้ยสูงถึง 0.50% ต่อครั้ง กนง.เลยเลือกส่งสัญญาณเร็วขึ้นและทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปแทน” นายธรรมรัตน์กล่าว
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ Economic Intelligence Center ธนาคารไทยพาณิชย์ (EIC) ออกบทวิเคราะห์คาดการณ์ว่า กนง.จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย อยู่ที่ 0.75% ในไตรมาส 3 นี้ โดย กนง.ได้ส่งสัญญาณว่าจะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะต่อไป โดยประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวดีกว่าคาด อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มเร่งตัวและอยู่ในระดับสูง
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ได้ออกบทวิเคราะห์เช่นกันว่า ในการประชุม กนง.รอบถัดไปวันที่ 10 สิงหาคมนี้ มีโอกาสปรับนโยบายการเงินสู่ภาวะปกติ โดยนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายจะมีความจำเป็นลดลง
ผู้สื่อข่าวรายงานการซื้อขายหลักทรัพย์ วันที่ 9 มิถุนายน หนึ่งวันหลัง กนง.มีมติ ไม่เอกฉันท์คงดอกเบี้ย พบว่าหุ้นกลุ่มแบงก์ ปรับขึ้นถ้วนหน้า โดยหุ้นธนาคารกรุงเทพปรับขึ้นสูงสุด 134.50 บาท บวก 7 บาท เพิ่มขึ้น 5.49% และติดกลุ่มหุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุดของวัน นำโดยหุ้นธนาคารกสิกรไทย หุ้นธนาคารกรุงเทพ และหุ้นเอสซีบี เอกซ์
Reference: หนังสือพิมพ์มติชน
