คาดกนง.ลดดอกเบี้ย0.25%
นายอมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัยซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 20 พ.ค.นี้ คาดว่าจะมีมติลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% จาก 0.75% มาอยู่ที่ 0.5% ต่อปี เนื่องจากเศรษฐกิจไทยชะลอลงมาก คาดไตรมาส 2 จะติดลบกว่า 10% ส่วนไตรมาสแรกอาจต้องรอดูตัวเลขจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติหรือ สศช. ในวันที่ 18 พ.ค. ซึ่งการคงดอกเบี้ยอาจไม่เป็นผลดี เพราะเศรษฐกิจแย่มาก และจะมาลดดอกเบี้ยในภายหลังอาจจะสายเกินไป
นอกจากนี้นโยบายการเงินต้องทำควบคู่ไปกับนโยบายการคลัง หลังจากปัจจุบันนโยบายการคลังได้มีมาตรการเยียวยา 5,000 บาท ทั้งอาชีพอิสระและเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งมองว่าอาจยังไม่เพียงพอเพราะยังไม่ครอบคลุมผู้เดือดร้อนทั้งหมด และการลดดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารไปก่อนหน้านี้เป็นการลดภาระให้ประชาชนและภาคธุรกิจมีเงินในกระเป๋ามากขึ้น แต่เงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มติดลบต่อเนื่อง และเงินเฟ้อพื้นฐานซึ่งเป็นตัวที่ไม่รวมราคาพลังงานและอาหารสดเริ่มมีแนวโน้มลดลงตามกำลังซื้อประชาชนที่ยังซบเซายังเป็นปัจจัยให้ กนง. ลดดอกเบี้ยครั้งนี้ด้วย
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 จะถึงจุดต่ำสุดในปีนี้แล้ว โดยจะเริ่มทยอยฟื้นตัวในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 แต่ยังติดลบอยู่ ซึ่งอยู่ระหว่างประเมินตัวเลขเศรษฐกิจใหม่จากเดิมคาดปีนี้จะติดลบ 6.4% โดยจะต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของ สศช. การฟื้นตัวช้าของเศรษฐกิจไทย ปัจจัยต่างประเทศ นโยบายการเงิน นโยบายการคลัง การคลายล็อกดาวน์ของประเทศด้วยเช่นเดียวกับค่าเงินบาทที่ปัจจุบันเริ่มแข็งค่ามาก จากธนาคารกลางสหรัฐได้ใช้มาตรการอัดฉีดคิวอีแบบไม่จำกัด จึงขอให้นักลงทุนและภาคธุรกิจมีความระมัดระวังหลังจากนี้แม้บาทแข็งจะเป็นแค่ชั่วคราวในช่วงนี้เท่านั้น
”แม้นักเศรษฐศาสตร์หลายรายอาจยังชั่งใจอยู่ระหว่างคงดอกเบี้ยกับลดดอกเบี้ย ซึ่งมองว่าไม่มีถูกและไม่มีผิด ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ แต่เชื่อว่าครั้งนี้ กนง.จะลดดอกเบี้ยเพราะเศรษฐกิจได้ชะลอลงมาก ถึงแม้ช่วงที่ผ่านมา ธปท. ได้ลดการนำส่งเงินเข้ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันการเงิน หรือเอฟไอดีเอฟ และธนาคารได้ปรับลดดอกเบี้ยไปแล้วก็ตาม”
น.ส.รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการ ฝ่ายส่งเสริมธุรกิจโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ในการประชุมวันที่ 20 พ.ค. นี้ กนง.จะลดดอกเบี้ยเหลือ 0.5% หรือลดลงอีก 0.25% เพราะปัจจัยในประเทศโดยเฉพาะเศรษฐกิจไทย และเงินเฟ้อทั่วไปเดือน เม.ย. ลดลง 2.99% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี 9 เดือน แม้เงินเฟ้อพื้นฐานซึ่งไม่รวมอาหารสดและพลังงานยังบวก 0.41% แต่กระทรวงพาณิชย์คาดว่าเงินเฟ้อในไตรมาส 2 มีแนวโน้มลดลงอีกตามกำลังซื้อที่ซบเซา
Reference: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
