คอตโต้ ลุ้นโควิดคลี่คลายดันยอดขายเติบโต
“เอสซีจี เซรามิกซ์” ประเมินครึ่งปีหลังสถานการณ์ยังต้องติดตามใกล้ชิด การระบาดอย่างหนักของโควิด ปิดแคมป์ก่อสร้าง อสังหาฯ ชะลอการลงทุนเลื่อนเปิดโครงการใหม่ พร้อมปรับกลยุทธ์มุ่งเน้นตลาดปรับปรุงที่อยู่อาศัยรับ WFH เร่งออกสินค้านวัตกรรมในกลุ่ม Health and Clean อย่างต่อเนื่อง คาดยอดขายทั้งปียังเติบโตได้
นายนำพล มลิชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ COTTO กล่าวถึงตลาดในช่วงครึ่งปีหลังว่า ผลกระทบของการระบาดของ COVID-19 จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวช้าและมีความไม่แน่นอนมากยิ่งขึ้น เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่ฟื้น เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง มีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าคาดการณ์ค่อนข้างมาก จากปัจจัยลบหลายด้าน ทั้งจากความยืดเยื้อของการระบาดของไวรัส และการใช้จ่ายในประเทศ แผนการเปิดประเทศ การปิดกิจการ และการเลิกจ้างแรงงาน ล่าสุด การแพร่ระบาดของ COVID-19 รอบใหม่ที่กระจายตัวไปยังแคมป์ก่อสร้าง มีผลกระทบเพิ่มเติม ทำให้เกิดภาวะการขาดแคลนแรงงาน
ส่วนแนวโน้มของตลาดอสังหาฯ น่าจะมีการชะลอโครงการใหม่ และหันมาเร่งการโอนในปัจจุบันให้เร็วขึ้น ซึ่งภาครัฐอาจจะช่วยกระตุ้นได้ด้วยมาตรการทางการเงินเพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจ มาตรการฟื้นฟูการสร้างรายได้ให้ประชาชน และเร่งฉีดวัคซีนป้องกันให้ครอบคลุมจำนวนมากที่สุด
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตลาดอสังหาฯมีแนวโน้มที่จะชะลอตัว และมีการตัดสินใจซื้อช้าลง แต่สำหรับตลาดสร้างซ่อมตกแต่งต่อเติม เห็นว่ามีแนวโน้มที่ยังไปต่อได้ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ผู้คนต่างก็มีประสบการณ์ที่ต้องเก็บตัวอยู่ในที่พักอาศัยเป็นระยะเวลานาน (WFH) กระตุ้นให้เกิดความต้องการที่จะปรับปรุง และเตรียมความพร้อมของที่อยู่อาศัย เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น
ดังนั้น บริษัทฯ จึงเร่งออกสินค้านวัตกรรมในกลุ่ม Health and Clean อย่างต่อเนื่อง โดยมั่นใจว่าหลังจากสถานการณ์ฯ คลี่คลายลง จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญและใส่ใจในเรื่องสุขภาพ ล่าสุด ได้ออกสินค้า “กระเบื้องฟอกอากาศ” หรือ AIR ION (แอร์ ไอออน) ที่มีคุณสมบัติช่วยลดฝุ่นละอองขนาดเล็กซึ่งเป็นภัยร้ายใกล้ตัวมากกว่าที่คาดคิด
สำหรับผลการดำเนินงาน ของ COTTO ในไตรมาสที่ 2 ปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 2,807 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16 % โดยมีกำไรสำหรับงวด 177 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 328% โดยในไตรมาสนี้ บริษัทยังคงสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายด้านการบริหาร และการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตได้ดีอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ผลประกอบการใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ไว้ โดยผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 64 มีรายได้ 5,613 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% บริษัทฯ สามารถทำกำไรสำหรับงวดได้ 364 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 119%
Reference: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา