ธนารักษ์จ่อเปิดประมูลทรัพย์ยึด
นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า กรมพร้อมให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน เกษตรกร และผู้ประกอบการที่มีสัญญาเช่าใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุ ซึ่งได้รับผลกระทบ จากการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ โดยในส่วนของประชาชนและเกษตรกรได้มีประกาศยกเว้นการเก็บค่าเช่าจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2564 ส่วนภาคเอกชนที่ทำสัญญาเช่าที่ราชพัสดุเชิงพาณิชย์ เบื้องต้นกรมให้ ผู้ประกอบการเลื่อนการจ่ายค่าเช่าออกไปก่อน การยกเว้นค่าเช่าที่ราชพัสดุ สำหรับที่อยู่อาศัยและการเกษตร คาดมีประชาชนและเกษตรกรได้ประโยชน์กว่า 5 แสนราย ส่วนการช่วยเหลือภาคธุรกิจและผู้ประกอบการที่เช่าที่ราชพัสดุในเชิงพาณิชย์ จะพิจารณาช่วยเหลือเป็นรายกรณี เช่น ผ่อนผันเก็บค่าเช่า 6-12 งวด และนำค่าเช่าไปทยอยผ่อนต่อทีหลัง รวมถึงให้ส่วนลดเพิ่ม แต่ต้องพิสูจน์ได้ว่าได้รับความเดือดร้อนหรือถูกผลกระทบจากโควิด
นายยุทธนากล่าวว่า แนวทางการช่วยเหลือภาคเอกชนที่ได้รับผล กระทบโควิด-19 สามารถแจ้งเรื่องขอความช่วยเหลือเข้ามาได้ พร้อมส่งเอกสารผลประกอบการ งบการเงิน เพื่อพิจารณาเปรียบเทียบช่วงปี 2563-64 ซึ่งเกิดผลกระทบโควิด กับผลประกอบการปีก่อนหน้านั้น หากพบว่ามีรายได้หายไปอย่างมีนัยยะ กรมพร้อมให้ความช่วยเหลือ ทั้งการผ่อนผันชำระหรือลดค่าเช่าให้ 25-50% เช่นเดียวกับหน่วยงานรัฐวิสาหกิจได้รับผลกระทบจากโควิด เช่น บริษัทท่าอากาศยานไทย ลดค่าเช่า 40% บริษัท ปตท. ลดค่าเช่าจากปีละ 550 ล้านบาท เหลือ 400 ล้านบาท ทำให้ภาพรวมรายได้ของกรมหายไปกว่า 3,000 ล้านบาท
นายยุทธนากล่าวว่า แม้การช่วยเหลือผู้ประกอบการจะทำให้กรมมี รายได้ลดลงแต่ถือเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระผู้เดือดร้อนจากโควิด-19 ตามนโยบายของรัฐบาล และกรมพยายามหารายได้อื่นมาชดเชย ในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนนี้ กรมจะสามารถนำที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับจากการยึดทรัพย์คดียาเสพติด คดีคอร์รัปชั่น ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ตามคำสั่งศาล เปิดประมูลขายให้เอกชนผ่านระบบออนไลน์ หลังกฎหมายเริ่มมีผลบังคับใช้ ซึ่งมีมูลค่านับพันล้านบาท รวมทั้งอยู่ระหว่างเตรียมเสนอคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ (กพศ.) เพื่อขอปรับเงื่อนไขการเปิดประมูลที่ราชพัสดุในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ จ.หนองคาย จ.มุกดาหาร เช่น ขยายเวลาเช่า 30 ปี เป็น 50 ปี คาดจะเริ่มประมูลได้ไตรมาส 3 ปีนี้
Reference: หนังสือพิมพ์มติชน
