แบงก์สู้ศึกระดมเงินฝาก รักษาฐานลูกค้าซบธ.รัฐ
นายนริศ สถาผลเดชา หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้แบงก์พาณิชย์ได้แข่งขันระดมเงินฝากกันสูงขึ้นโดยออกผลิตภัณฑ์เงินฝากประจำพิเศษ เนื่องจากต้องการรักษาฐานลูกค้าเงินฝากเดิมไม่ให้หนีไปฝากเงินสลากออมทรัพย์ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ(แบงก์รัฐ) ที่นอกจากได้ดอกเบี้ยแล้วยังได้ลุ้นรางวัล และมีกรณีภาษีดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ 15% ด้วย นายนริศ สถาผลเดชา หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้แบงก์พาณิชย์ได้แข่งขันระดมเงินฝากกันสูงขึ้นโดยออกผลิตภัณฑ์เงินฝากประจำพิเศษ เนื่องจากต้องการรักษาฐานลูกค้าเงินฝากเดิมไม่ให้หนีไปฝากเงินสลากออมทรัพย์ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ(แบงก์รัฐ) ที่นอกจากได้ดอกเบี้ยแล้วยังได้ลุ้นรางวัล และมีกรณีภาษีดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ 15% ด้วย แต่แบงก์พาณิชย์ไม่ได้ระดมเงินฝากเพื่อรองรับการปล่อยสินเชื่อ เพราะแนวโน้มสินเชื่อในครึ่งปีหลังยังไม่ได้ดีมองว่าจะชะลอลงด้วย เนื่อง จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว รายงานข่าวจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวว่า ภาพรวมเงินฝากของธนาคารพาณิชย์กลับมาเพิ่มขึ้น1.26 แสนล้านบาทในเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา นำโดยเงินฝากของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่และธนาคารพาณิชย์ขนาดกลางบางแห่ง ซึ่งบางส่วนเป็นเงินฝากนิติบุคคลจากลูกค้าธุรกิจของธนาคารนั้นๆ ทำให้เงินฝากรวมขยายตัว 4.28% เมื่อเทียบกับปีก่อน ทำให้ภาพรวมสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์อยู่ระดับ 3.6 ล้านล้านบาท และคาดว่าช่วงที่เหลือของปีนี้จะอยู่ที่ 3.5-3.7 ล้านล้านบาท ซึ่งยังคงเพียงพอรองรับการดำเนินธุรกิจของธนาคาร สำหรับสถานการณ์แคมเปญเงินฝากประจำพิเศษนั้น ส่วนหนึ่งธนาคารพาณิชย์มีการออกแคมเปญเงินฝากใหม่ เพื่อชดเชยกับแคมเปญที่ครบกำหนด แต่แคมเปญเงินฝากที่ออกใหม่โดยเฉลี่ยส่วนใหญ่มีระยะเวลาที่สั้นลง เชื่อว่าธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่พยายามดูแลภาระดอกเบี้ยจ่ายให้อยู่ในระดับที่มีความเหมาะสมแรงกดดันต่อทิศทางรายได้ดอกเบี้ย ภายหลังจากที่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับธุรกิจเอสเอ็มอีและรายย่อยไปแล้ว อย่างไรก็ตามช่วงที่เหลือปีนี้แนวโน้มสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ไทย อาจต้องเจอข้อจำกัดของการฟื้นตัวโดยธนาคารพาณิชย์หลายแห่งยังคงติดตามประเด็นคุณภาพสินทรัพย์ และต้องเร่งบริหารจัดการปัญหาในเชิงรุกมากขึ้น เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจ ทั้งในและต่างประเทศ