เกณฑ์การเลือกบ้านมือสอง 5 ข้อที่ต้องเช็ก
บ้านคือที่อยู่อาศัย เป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ ที่ใครๆ ต่างก็อยากมี แต่พอดูราคาแล้ว อาจจะต้องคิดอีกที เพราะแพงหูฉี่ แต่ยังมีอีกวิธีที่ดี คือการเลือกซื้อบ้านมือสอง ซึ่งราคาถูกกว่าบ้านมือหนึ่งเกือบเท่าตัว ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้มาก แต่บ้านมือสองก็มีขายกันอยู่ทั่วไป จะใช้เกณฑ์การเลือกจากอะไร มี 5 ข้อที่ต้อง เช็กกัน
1.ทำเลที่ตั้ง
ทำเลที่ตั้งนับว่าเป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจเลือกบ้านที่จะอยู่อาศัย หากต้องการความสะดวกสบาย ควรเลือกบ้านที่อยู่ใกล้ขนส่งสาธารณะ เช่น รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน รถโดยสาร เป็นต้น หากต้องการความสงบก็ควรเลือกบ้านให้หลีกเลี่ยงจากเขตชุมชน ย่านธุรกิจ ร้านอาหาร หรือร้านค้าต่างๆ เพราะอาจจะเกิดเสียงรบกวนได้ และควรเลือกบ้านที่มีทางเข้าออกสะดวก ไม่อยู่ในซอยตัน หรือไม่มีที่กลับรถ เพราะหากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น การเข้าออกก็จะลำบาก
2.ความถูกต้อง
เช็กความถูกต้องของตัวบ้านว่าสร้างตามมาตรฐานของกรมโยธาธิการหรืองานช่างเทศบาลหรือไม่ ที่ดินนี้จะมีการเวนคืนในอนาคตหรือเปล่า โดยสามารถนำเลขทะเบียนบ้านไปตรวจสอบกับหน่วยงานนั้นๆ ได้โดยตรง หากตัวบ้านมีการต่อเติมเพิ่มขึ้นมา ก็ควรเช็กด้วยว่าสร้างถูกตามเงื่อนไขการก่อสร้างหรือไม่ และอย่าลืมเช็กค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เจ้าบ้านคนก่อน อาจจะค้างไว้ไม่ได้จ่าย เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ เป็นต้น เพราะอาจโดนเรียกเก็บย้อนหลังได้
3.สภาพบ้าน
สภาพบ้านเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อบ้านมือสองอีกเช่นกัน โดยต้องตรวจสอบโครงสร้างของเสาและคานว่าตั้งฉากกับพื้นหรือไม่ มีรอยร้าวในเนื้อคอนกรีตของตัวโครงสร้างเสาและคานหรือเปล่า รวมทั้งรอยร้าวบริเวณอื่นๆ ของตัวบ้าน เช่น ตามมุมผนัง หรือพื้นชั้นสองของบ้าน รวมไปถึงตรวจสอบระบบน้ำประปาและไฟฟ้า ว่าใช้งานได้ปกติดีหรือไม่ หากไม่แน่ใจให้นำช่างผู้มีประสบการณ์ไปช่วยตรวจบ้านด้วยอีกแรง
4.เปรียบเทียบราคา
ตรวจสอบราคาบ้านในละแวกเดียวกันว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานเดียวกันหรือไม่ บ้านที่กำลังจะซื้อราคาสูงเกินไปหรือเปล่า โดยสุ่มตรวจจากหลายๆ หลัง เพื่อความมั่นใจ อย่างไรก็ตามเวลาเราจะซื้อบ้าน ก็จะมีเจ้าหน้าที่จากธนาคารมาทำการประเมินราคาบ้านอีกที ซึ่งช่วยยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า ราคาบ้านที่เรากำลังจะซื้อนี้ อยู่ในราคาที่เหมาะสมหรือไม่
5.การขอสินเชื่อ
อันดับแรกต้องคำนวณรายได้ของตัวเอง เพื่อประเมินความสามารถในการผ่อนจ่ายชำระค่าบ้าน โดยยอดที่สามารถจ่ายไหวต้องอยู่ที่ประมาณ 1 ใน 3 ของรายได้รวมทั้งหมดต่อเดือน จากนั้นเตรียมเอกสารและหลักฐานต่างๆ ให้พร้อมก่อนขอสินเชื่อ ซึ่งได้แก่ สำเนาโฉนดที่ดิน ซึ่งขอได้จากผู้ขายบ้าน รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือนของเราเอง ซึ่งขอได้จากธนาคาร และอย่าลืมเตรียมค่าใช้จ่ายต่างๆ เพิ่มเติมด้วย เช่น ค่าอากร ค่าจดจำนอง ค่าประเมินราคา เป็นต้น
ได้รู้หลักเกณฑ์การเลือกบ้านมือสองที่ต้องตรวจสอบกันไปแล้ว หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคุณที่กำลังคิดจะซื้อบ้านไว้เป็นของตัวเองในอนาคต